Call Us:
098-9245815
จันทร์ - เสาร์ : 09.00 น. - 18.00 น.
OUR LOCATION
178/50 ซ.วุฒากาศ 14 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี , กรุงเทพฯ 10600,
SEND US EMAIL
pichaipat@faifahpro.biz
หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
บทความ
สื่อ
กิจกรรม
ติดต่อเรา
หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
บทความ
สื่อ
กิจกรรม
ติดต่อเรา
ท่อร้อยสายไฟ PVC กับ โลหะ แตกต่างกันอย่างไรและการใช้งานแบบไหนถึงจะตอบโจทย์?
หน้าแรก
บทความ
ท่อร้อยสายไฟ PVC กับ โลหะ แตกต่างกันอย่างไรและการใช้งานแบบไหนถึงจะตอบโจทย์?
ท่อร้อยสายไฟ PVC กับ โลหะ แตกต่างกันอย่างไรและการใช้งานแบบไหนถึงจะตอบโจทย์?
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหน้าที่ของท่อร้อยสายไฟคือ การกันกระแทกที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อฉนวนของสายไฟฟ้าและมันก็ยังกันพวกสัตว์ที่มันมีฟันแทะ เช่น หนูมาแทะสายไฟจนเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ในอนาคต ซึ่งถ้ามาแบ่งกันตามวัสดุที่นำมาใช้จะแบ่งได้ประมาณ 2 ประเภทคือ
ท่ออโลหะหรือท่อ PVC
ซึ่งชื่อของมันก็บอกอยู่แล้วว่าทำมาจาก PVC หรือ polyvinyl chloride เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่ทำมาจากเกลืออุตสาหกรรมและคาร์บอนที่มาจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยท่อร้อยสาย PVC จะแบ่งหลักๆเป็น 2 ชนิดนั่นก็คือท่อ PVC สีขาวที่เราเรียกกันว่าท่อ UPVC และก็ท่อ PVC สีเหลือง และโดยทั่วไปอุณหภูมิใช้งานของท่อ PVC จะอยู่ที่ประมาณ 65 องศาเซลเซียส หมายความว่าเวลาที่เราร้อยสายไฟอยู่ในท่อร้อยสายไฟ เวลาที่เราจ่ายกระแสไฟโดยปกติแล้วสายไฟมันจะมีอุณหภูมิที่มันสูงขึ้นเนื่องจากว่ามันมีการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ภายในสายและเมื่อรวมกับอุณหภูมิของประเทศไทยที่มันร้อนแทบจะตับแล่บซึ่งก็ต้องห้ามเกิน 65 องศาเซลเซียสนั่นเอง ในส่วนนี้เราก็จำเป็นต้องเลือกขนาดสายไฟให้มันมีความเหมาะสมและก็มีพื้นที่ว่างภายในท่อมากเพียงพอจึงจะทำให้อุณหภูมิมันไม่เกินพิกัดของท่อ เพราะถ้ามันเกินอาจจะทำให้ท่อหลอมละลายได้
อย่างที่ 2 คือ
ท่อร้อยสายไฟแบบโลหะ
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทำมาจากโลหะ ซึ่งโลหะที่นำมาใช้ทำนั่นก็คือ เหล็กกล้าแล้วนำมาเคลือบกับสังกะสีโดยวิธีกัลวาไนซ์ (galvanize) หรือพูดง่ายคือการที่เรานำเหล็กกล้ามาชุบลงในสังกะสีที่มันหลอมเหลวอยู่เพื่อกันสนิมนั่นเอง ซึ่งท่อร้อยสายไฟโลหะแบ่งชนิดการใช้งานของท่อได้เป็น 3 ชนิด นั่นก็คือ ท่อ 1) ท่อ EMT (Electrical Metallic Tubing) 2) ท่อ IMC (Intermediate Metal Conduit) 3) ท่อ RSC (Rigid Steel Conduit) โดยเรียงจากความหนาน้อยไปหาความหนามาก ซึ่งแม้ว่าท่อโลหะจะมีจุดหลอมเหลวที่มันสูงมากแต่อุณหภูมิที่เราเอามาใช้งานก็จะอ้างอิงกับอุณหภูมิใช้งานของฉนวนของสายไฟฟ้านั่นก็คือประมาณ 70 องศาเซลเซียสนั่นเอง หรือ ง่ายๆการที่เราจะเลือกขนาดของท่อโลหะก็คือใช้เกณฑ์เดียวกันกับท่ออโลหะหรือท่อ PVC ไปเลยนะคะ เพื่อที่ว่าเวลาติดตั้งสายไฟเข้าไปแล้วข้างในจะได้มีการระบายความร้อนภายในท่อเกิดขึ้นได้ดีค่ะ
และนอกจากนี้การเลือกใช้งานแบบไหนควรใช้ท่อท่อร้อยสาย PVC งานแบบไหนควรใช้ท่อร้อยสายแบบโลหะ เรามาดูกันเลย
ท่อ PVC สำหรับงานร้อยสายไฟ
หลายคนคงเคยเห็นว่าท่อร้อยสายไฟ PVC นั้นหลัก ๆ ที่ได้รับความนิยมนำมาใช้กันก็จะเป็นท่อร้อยสายไฟสีเหลืองแต่จริง ๆ แล้วในปัจจุบันก็จะมีท่อ PVC สีขาวเป็นอีกแบบหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในงานเดินสายไฟด้วยเช่นกัน ซึ่งสีที่แตกต่างกันนั้นก็เป็นการสะท้อนถึงคุณสมบัติที่แตกต่างกันด้วยนั่นคือ
ท่อร้อยสายไฟสีเหลือง : เหมาะกับการใช้เดินระบบสายไฟแบบฝังผนัง แบบนี้จะเป็นแบบมาตรฐานที่นิยมใช้กันตามบ้านเรือนและอาคารทั่วไป จะนำมาใช้ร้อยสายไฟก่อนที่จะทำการฉาบปูนปิดผนัง ซึ่งจะช่วยทำให้ผนังบ้านดูเรียบสวยไม่รกตาและยังทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ง่ายขึ้นด้วย
ท่อสายไฟสีขาว : เหมาะกับการใช้เดินสายไฟแบบลอยหรือติดชิดกับผนัง ในระยะหลังที่ได้รับความนิยมเนื่องจากเข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านแนว Loft ทำให้การโชว์ผนังปูนเปลือยดูโดดเด่นมีความดิบที่ชัดเจนขึ้น
แต่ถ้ากล่าวถึงจุดเด่นในภาพรวมแล้วท่อ PVC สำหรับงานเดินสายไฟแล้วจะอยู่ตรงที่ใช้งานง่ายราคาถูกกว่าแบบโลหะ สามารถช่วยลดปัญหาและป้องกันอันตรายจากไฟรั่วได้ดีพอสมควรทีเดียว แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ท่อแบบนี้จะไม่เหมาะกับการใช้ร้อยสายไฟแบบฝังดิน เพราะท่อมีโอกาสแตกได้
ท่อโลหะสำหรับงานร้อยสายไฟ
ท่อ EMT : เป็นท่อโลหะแบบบาง สามารถที่จะดัดโค้งงอได้พอสมควร ท่อแบบนี้เหมาะกับการใช้เดินลอยสายไฟ จะช่วยชูจุดเด่นในการตกแต่งบ้านสไตล์ Loft ได้ดีเป็นอย่างมาก แต่ถึงจะเป็นท่อโลหะ ท่อแบบนี้ก็ยังไม่เหมาะต่อการร้อนสายไฟลงดิน แต่ในงานระบบไฟฟ้าอาคารสูงต่างๆ มาตรฐานงานก่อสร้างก็มักระบุให้ใช้ท่อเหล็ก EMT ฝังผนังมากกว่าท่อ PVC เช่นกัน เพื่อความปลอดภัย คงทนที่มากยิ่งขึ้น
ท่อ IMC : เป็นท่อโลหะแบบแข็งหรือแบบแป๊บเหล็กที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง ท่อแบบนี้ก็เหมาะกับการเดินลอยสายไฟ ใช้ฝังผนัง หรือจะใช้ร้อยสายไฟฝังดินก็ได้เช่นกัน
ในภาพรวมแล้วท่อแบบโลหะจะให้ความแข็งแกร่งทนทานมากกว่าท่อ PVC แต่ในด้านราคาจะสูงกว่า และการเดินท่อจะยากกว่ารวมถึงตัวโครงสร้างจะต้องแบกน้ำหนักตัวท่อเพิ่มขึ้น จึงต้องพิจารณาเลือกใช้ให้ดีค่ะ
Share this post :
Related Articles
ไขควงวัดไฟ……สิ่งที่ควรมีไว้ติดบ้าน
อุปกรณ์ที่ควรมีติดบ้านเพื่อเช็กระบบไฟฟ้าว่าไฟรั่วหรือไม่ นั้นคือ ไขควงวัดไฟ หรือ ไขควงลองไฟ ทางไฟฟ้าโปรจะพามารู้จัก ไขควงว...
Faifahpro บริการตรวจระบบไฟฟ้าในบ้าน
โดยปกติบางอาจทำความสะอาดบ้านทุกวัน บางบ้านอาจจะวันเว้นวัน หรือบางบ้านอาจจะอาทิตย์ละครั้งตามความสะดวกของผู้อยู่อาศัย เชื่อห...
บริษัททำระบบไฟฟ้า VS ผู้รับเหมา/ช่างไฟฟ้าทั่วไป
เชื่อว่า หลายคนยังประสบปัญหาในการหาช่างไฟ ผู้รับเหมา หรือบริษัททำระบบไฟฟ้า เข้ามาตรวจเช็ค ซ่อมแซม ต่อเติมเพิ่มระบบไฟฟ้าในบ...
ติดต่อเรา
Read More