รู้งี้ ซื้อหลอดไฟLED ดีกว่า

ในปี 2565 ค่าไฟนั้นเพิ่มขึ้นหลายเท่ามาก ๆ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ทุก ๆ ครัวเรือนต้องจ่าย จะดีกว่ามั้ยถ้ามีบางอย่างที่สามารถช่วยลดค่าไฟคุณได้โดยไม่ต้องเสียเงินมากในการแก้ไข นั้นคือ หลอดไฟ LED เป็นอีก1ทางเลือกในการประหยัดไฟ เรามารู้เกี่ยวกับหลอดไฟLED ก่อนจะตัดสินใจใช้งาน
หลอดไฟเเอลอีดี (LED) ย่อมาจาก Light Emitting Diodes ซึ่งมีการพัฒนามาการทำงานของหลอดไฟLED นั้นเป็นการปล่อยไฟฟ้าไปที่ชิป และให้แสงสว่างจากอิเล็กตรอน โดยไม่ทำให้เกิดความร้อนไปเผาไส้หลอด และในปัจจุบันหลอดไฟLED ไม่ได้มีราคาที่สูงเหมือนสมัยก่อน ดังนั้นราคาจึงสามารถจับต้องได้ ประเภทของหลอดไฟ LED มีอยู่ 2 ประเภท ดังนี้
          1.หลอดไฟ LED BULB: หลอดแอลอีดี BULB (กระเปาะ) ได้ถูกนำมาใช้แทนหลอดไส้ (Incandescent) หรือหลอดตะเกียบ (ฟลูออเรสเซนต์) เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องจากหลอดแอลอีดีทรง BULB ปัจจุบันราคาถูกลงมาก และมีให้เลือกได้หลากหลายขนาดวัตต์ รูปทรงหลอดสวยงาม และที่สำคัญยังช่วยลดความร้อนที่มาจากตัวหลอดได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าประหยัดทั้งค่าไฟ และอุณหภูมิภายในบ้านก็ลดลงด้วย
          2.หลอดไฟ LED TUBE: สำหรับหลอดแอลอีดี TUBE (ทรงยาว) ได้ถูกนำมาใช้แทนหลอดนีออน หรือ หลอดฟลูออเรสเซนต์ T5 และ T8 ซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจอย่างมากเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ องค์กร ห้างสรรพสินค้า หรือ โรงงานอุตสาหกรรม ต่าง ๆ ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายลง เพราะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าลงได้อย่างมากเลยทีเดียว

เรามาดูกันสิว่าหลอดไฟLED นั้น มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อเปรียบเทียบในการตัดสินใจซื้อมาใช้

ข้อดีของหลอดไฟ LED

          1.หลอดไฟไม่เป็นอันตรายต่อผิวเรา เพราะในหลอดไฟLED นั้นไม่มีการปล่อยรังสียูวี
          2.ยังสามารถให้แสงสว่างที่ชัดเจน ซึ่งทำให้สีวัตถุไม่เพี้ยน
          3.มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่าหลอดไฟทั่วไปถึง 15,000 ชั่วโมงซึ่งสามารถใช้งานได้สูงสุด 50,000 ชั่วโมง
          4.การใช้หลอดไฟLED สามารถประหยัดไฟได้ถึง 50%-80% ขึ้นอยู่กับการใช้งานและค่าใช้ในเดือนนั้น ๆ
          5. มีความร้อนค่อนข้างต่ำมากเป็นพิเศษ จึงไม่ทำให้ห้องและสภาพแวดล้อมนั้นเกิดความร้อนจากแสงไฟ ช่วยลดภาระของแอร์ในการทำความเย็นลงได้ ซึ่งเท่ากับประหยัดไฟไปได้อีกต่อหนึ่ง
          6.มีดีไซน์ที่หลากหลายให้เลือก
          7.เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะไม่มีส่วนส่วนประกอบของโลหะหนักที่เป็นอันตรายเพราะไม่มีก๊าซพิษร้ายแรงเพื่อทำปฏิกิริยาทางไฟฟ้า และไม่มีส่วนประกอบของกระจก ปลอดภัยแม้ทำแตก หัก เสียหาย และยังให้ความคงทนที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน ทำให้ปริมาณขยะของหลอดไฟนั้นลดลงอีกทั้งยังสามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ แบบ 100%
          8.ทนต่อแรงกระแทก สั่นสะเทือน และการกัดกร่อนได้ดีกว่า เรียกได้ว่าสามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้ดี

ข้อเสียของหลอดไฟ LED

          1. ราคาต่อชิ้นค่อนข้างแพงกว่า เมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์ และหลอดทังสเตน
          2. แอลอีดีส่วนใหญ่ ไม่สามารถใช้กับสวิตช์หรี่แสงได้ (Dimmer Switch)
เมื่อได้รู้ถึงข้อดีและข้อเสียแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะไม่ลองเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED คุ้มค่ากับเราและกับโลก ลดค่าใช้จ่ายและยังสามารถช่วยสิ่งแวดล้อมในด้านการลดขยะ สามารถเพิ่มมูลค่าหลังใช้งานได้อีกด้วย